สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แผนการสร้างเครื่องจักร และระบบที่จำเป็นสำหรับ AI ในปริมาณมหาศาล ของ ‘แซม อัลท์แมน’ (Sam Altman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OpenAI เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดยเริ่มจากความพยายามในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Altman ใช้เวลาช่วงต้นปี ในการขออนุมัติโครงการดังกล่าวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งกลุ่มนักลงทุนระดับโลก เพื่อระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่มีราคาแพง ที่จำเป็นต่อการสนับสนุนการพัฒนา AI อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน Altman และทีมงาน กำลังวางแผนในรายละเอียดหลายอย่าง ที่ยังไม่มีการรายงานมาก่อน รวมถึงแผนการตั้งเป้าในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยประเภทของโครงการที่อยู่ระหว่างการหารือ ประกอบไปด้วย การสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ การเพิ่มขีดความสามารถด้านพลังงาน การผลิตพลังงานด้วยกังหันและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตลอดจนการขยายการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
โดยนักลงทุนที่สนับสนุนโครงการนี้ คาดว่า มาจากแคนาดา เกาหลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งบริษัทเอกชนรายอื่นอย่างเช่น Microsoft นักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของ ChatGPT คาดว่า จะเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วย แม้ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้โดยเฉพาะ
แหล่งข่าว เผยว่า Altman และกลุ่มผู้บริหารของ OpenAI ได้พบปะกับนักลงทุนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อผลักดันข้อตกลงดังกล่าว โดย Jason Kwon หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ OpenAI ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี เมื่อไม่นานนี้ เพื่อพูดคุยกับนักลงทุนเกี่ยวกับแผนดัง
ส่วน Chris Lehane รองประธานฝ่ายนโยบายระดับโลก OpenAI ได้พูดคุยกับนักลงทุนในแคนาดา และ Altman ยังได้พูดคุยกับนักลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มเติม หลังจากการพูดคุยครั้งก่อน รวมทั้งพูดคุยกับนักลงทุนในสหรัฐฯ อีกด้วย
การหารือดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่ OpenAI กำลังใกล้จะระดมทุนรอบใหม่ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.42 ล้านล้านบาท โดยข้อตกลงดังกล่าว คาดว่าจะนำโดย Thrive Capital และมี Microsoft, Apple และ NVIDIA เข้าร่วมด้วย
ด้านโฆษกของ OpenAI เมื่อถูกถามถึงแผนการผลักดันโครงสร้างพื้นฐาน โฆษกกล่าวว่า บริษัทเชื่อว่า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมในสหรัฐฯ มีความสำคัญต่อการพัฒนา AI ให้ก้าวหน้าต่อไป และทำให้สามารถเข้าถึงประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง โดย OpenAI กำลังสำรวจโอกาสต่างๆ พร้อมมีเป้าหมายนี้ในใจ และหวังว่าจะได้แบ่งปันรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ Altman กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานเพื่อขับเคลื่อน AI เป็นสิ่งที่เร่งด่วนสำหรับสหรัฐฯ เนื่องจากมีความสำคัญต่อการรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของประเทศ เหนือรัฐบาลเผด็จการ
โดยในคอลัมน์ของ Washing Post เขาเขียนว่า “ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ ต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในปริมาณที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบ AI ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ หรือโรงไฟฟ้า”
อย่างไรก็ตาม OpenAI อาจก่อให้เกิดข้อกังวล ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ รวมถึง การตรวจสอบโดยคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ ซึ่งให้ความสนใจกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของตะวันออกกลาง และความสัมพันธ์กับจีนเพิ่มมากขึ้น
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา OpenAI ได้จัดการประชุมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เกี่ยวกับแผนการลงทุนดังกล่าว ต่อยอดจากการประชุมครั้งก่อน กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคน รวมถึง การประชุมระหว่าง Altman และเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ในการเจรจาดังกล่าว Altman และผู้บริหารคนอื่นของ OpenAI ได้เน้นย้ำว่า แผนโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก จะช่วยกระตุ้นข้อได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ด้วยการจัดตั้งพันธมิตรข้ามชาติ เพื่อแข่งขันกับกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานของจีนเอง และเงินทุนจากต่างประเทศที่อาจไหลไปที่จีนก็จะไหลไปที่สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ รัฐบาลของไบเดนได้พยายามสร้างความสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น กับกลุ่มที่เรียกว่า ‘Global South’ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนความร่วมมือสำคัญระหว่าง Microsoft และ ‘G42’ บริษัทด้าน AI ในอาบูดาบี
ที่มา Bloomberg