เมื่อต้นปี2021 เทสล่าลงทุนในบิตคอยน์ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยวิสัยทัศน์ว่าบิตคอยน์มีศักยภาพในการลงทุนระยะยาว แต่ล่าสุดเทสล่ารายงานว่า ได้ขายบิตคอยน์ออกมาแล้วถึง 3 ใน 4 ของที่ถืออยู่
บริษัท เทสล่า รายงานว่าสิ้นสุดไตรมาส 2ของปีนี้ ได้ขายบิตคอยน์ออกมา 75% และการขายทั้งหมดได้ทำให้เงินสดในงบดุลเพิ่มขึ้นมา มูลค่า 936 ล้านเหรียญ หรือราว 34,351 ล้านบาท
สำหรับ Tesla มูลค่าการถือครองบิตคอยน์ ในไตรมาสแรกของปี 2021อยู่ที่ 2.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดลงเหลือ 2 พันล้านดอลลาร์ในสิ้นสุดปี 2021 แต่บริษัทเทสล่าก็ไม่ได้ระบุว่าขายออกมาในราคาเท่าไหร่ หรือเทสล่าขาดทุนไปเท่าไหร่กันแน่
แต่นักวิเคราะห์ Brian Johnson ที่ Barclays ประมาณการเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า Tesla จะเห็นการด้อยค่าที่เกี่ยวข้องกับ bitcoin มูลค่า 460 ล้านดอลลาร์จากการเทขาย
อีลอน มัสก์ ซีอีโอ เทสล่า ให้เหตุผลว่าการที่บริษัทขายบิตคอยน์ออกมาเกือบหมด เพราะต้องการนำเงินสดเข้ามาช่วยโรงงานในจีน ซึ่งต้องปิด 1 เดือนเต็มจากมาตรการล็อคดาวน์ของทางการจีน เค้าจำเป็นต้องมีเงินสดในมือสูงสุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามเกี่ยวกับศักยภาพของ bitcoin ในการป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ มัสค์ บอกว่า เป้าหมายหลักของเทสลาคือการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่ยั่งยืน
หากดูข้อมูลเมื่อไตรมาสแรกของปี 2564 เทสลาเข้าสู่ตลาดบิตคอยน์ โดยบริษัทให้เหตุผลตอนนั้นว่า เป็นความยืดหยุ่น กระจายความเสี่ยง โดยบริษัทขายออกมาอย่างรวดเร็วราว 10% เมื่อค่าเงินพุ่งขึ้น ทำให้มีกำไร 101 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว
การขายบิตคอยน์ออกมาอย่างหนักของเทสล่า สวนทางกับปีที่แล้วที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสล่า สนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี่อย่างมาก เห็นได้จากทวิตเตอร์ของเค้าที่มักมีเรื่องราวเกี่ยวกับเหรียญต่างๆอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงเทสล่าเปิดให้ใช้บิตคอยน์ในการซื้อรถไฟ้ แต่ขณะนี้มูลค่าของบิตคอยน์หายไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่าน
* ***ราคาบิตคอยน์ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 22,900 ดอลลาร์ ลดลงราว 2% ในรอบ 24 ชั่วโมง ****
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน มีรายงานว่า "เจด แม็คคาเลบ" (Jed McCaleb) อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ได้เทขายเหรียญ XRP ในพอร์ตของตัวเองทิ้งไปทั้งหมด 9,000 ล้านดอลลาร์แล้ว หลังจากที่เริ่มทยอยขายมานานถึง 8 ปี
แม็คคาเลบ ทยอยขายเหรียญ XRP ล็อตสุดท้ายประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ ใน 1 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการปิดฉากการขายแบบหมดหน้าตัก นับตั้งแต่ที่แม็คคาเลบลาออกจาก Ripple Labs แล้วไปก่อตั้งแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง Stellar ในปี 2014
สำหรับการขาย XRP ของผู้ที่สร้างเหรียญมาเองกับมือนั้น คิดเป็นสัดส่วนรวมประมาณ 18.6% ของอุปทานของ XRP
อ้างอิง ที่มา