ปี 2021 ที่ผ่านมา คือปีแห่ง Cryptocurrency อย่างไม่ต้องสงสัย
- ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะให้ผลตอบแทน "43 ล้าน%" ภายในปีเดียว
- (แทบ)ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะช่วยพลิกฐานะได้จากหน้ามือเป็นหลังมือภายใน 1 ปี
- (แทบ)ไม่มีกระแสไหนอีกแล้วที่จะรวมศูนย์คนรุ่นใหม่ได้เท่ากับเรื่องคริปโต ซึ่งถูกมองว่าเป็น "ความหวัง"
แน่นอนว่าคริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้มีแค่ "ด้านบวก" ปี 2021 มีทั้งคนที่พลิกชีวิตสร้างเนื้อสร้างตัวได้ในยุคเศรษฐกิจที่ยังถูกผูกขาด แต่ก็มีคนที่ถึงขั้น "หมดตัว" จากคริปโตเช่นกัน ไม่ว่าจะมาจากลงทุนพลาด ถูกแฮก หรือถูกหลอกลวง/ฉ้อโกง เพราะการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงก็มีความเสี่ยงสูงมากตามไปด้วย
แต่ไม่ว่าจะเจอความท้าทายหรือถูกสั่นคลอนแค่ไหน ตราบที่ยังไม่ถึงขั้นเกิดภาวะ "ฟองสบู่แตก" จนพินาศกันเป็นวงกว้าง วงการคริปโตเคอร์เรนซีก็น่าจะยังเป็นกระแสความสนใจของทั่วโลกไปได้ต่อเนื่องอีกนาน ซึ่งทีมข่าว Spotlight ได้รวบรวมข้อมูล "5 คริปโตมาแรงที่สุดแห่งปี 2021" และ "5 เทรนด์คริปโตแห่งปี 2022" ที่คุณต้องรู้ เอาไว้ที่นี่แล้ว
5 คริปโตมาแรงที่สุดแห่งปี 2021*
อย่าถามหาสูตรความสำเร็จของเหรียญ Shiba Inu จากตำราไหนๆ เพราะมันไม่มี! นี่คือเหรียญมีมทีเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อเดือน ส.ค. 2020 โดยเลียนแบบ Dogecoin แต่ทำราคาขึ้นไปชนิดเหยียบดวงจัทร์ด้วยตั๋วไป-กลับ 5 รอบ จากเดิมที่มีราคา 0.000000000077 ดอลลาร์ เมื่อต้นปี 2021 Shiba Inu หั่นเลขศูนย์หายไป 4 หลัก ขึ้นไปทุบสถิติที่ 0.00008616 ดอลลาร์ ในเดือน ต.ค. พร้อมด้วยมาร์เก็ตแคปที่พุ่งไป 4 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ราคาช่วงปลายปีจะผันผวนปรับตัวลงแรง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือเหรียญมีมที่ขึ้นมา "แรงที่สุด" บนแรงเก็งกำไรในยุคปลายฟองสบู่สินทรัพย์ ที่อาจหาในปีไหนๆ ไม่ได้อีกแล้ว
เหรียญมาแรงที่สุดจากแดนกิมจิ เริ่มต้นปี 2021 ด้วยราคา 0.65 ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นไปแตะนิวไฮที่ 81 ดอลลาร์ในเดือน ธ.ค. โดยได้แรงขับเคลื่อนจากอีโคซิสเต็มของ Terra ที่มีทั้ง DeFi, GameFi และ stablecoin
AXS จากเวียดนาม มาแรงจากกระแส GameFi "play-to-earn" ในปีนี้ ทำให้จากราคา 0.53 ดอลลาร์เมื่อต้นปี ทะยานขึ้นไปทำนิวไฮถึง 164 ดอลลาร์ ในเดือน พ.ย. พร้อมมาร์เก็ตแคป 1 หมื่นล้านดอลลาร์
เหรียญในกลุ่ม smart contract ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Ethereum killers ทำราคาเมื่อต้นปีจาก 1.52 ดอลลาร์ ขึ้นไปทำนิวไฮที่ 259.96 ดอลลาร์ ในเดือน พ.ย. โดยได้อานิสงส์จากการเป็นออปชั่นทางเลือกจากอีเธอเรียม ที่ค่าแก๊ซ (ค่าธรรมเนียม) ถูกกว่า
Native token เลเยอร์ 2 ที่ทำงานบนบล็อคเชนของอีเธอเรียม ทำราคาขึ้นจาก 0.017 ดอลลาร์ ไปแตะ 2.62 ดอลลาร์ในเดือน ก.ย. และเป็นหนึ่งในเหรียญที่หลายเว็บไซต์คาดว่าจะยังไปได้ต่อในปี 2022 เพราะเริ่มมีการใช้เหรียญนี้กันมากขึ้นแล้ว
(* ราคาเหรียญมีความผันผวนเป็นวินาที และไม่มีแพลตฟอร์มกลางในด้านนี้ การจัดอันดับเหรียญของแต่ละเว็บไซต์จึงไม่เหมือนกัน)
5 เทรนด์การลงทุนเหรียญปี 2022
ในโลกของคริปโตที่มาเร็วไปเร็ว และขึ้นแรงลงแรงนั้น เป็นเรื่องยากที่จะชี้ชัดได้ว่าเหรียญไหนจะมาแรงหรือยืนระยะได้ยาวในปีหน้า แต่หากมองไปในเชิงของธีมและเทรนด์ในการลงทุนแล้ว นักวิเคราะห์หลายแห่งมองตรงกันว่า ธีมของ NFT จะยังคงแรงได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสาย "Gamefi" และ "Metaverse" รวมถึงที่ดินในโลกเสมือน ซึ่งทำราคาทะยานขึ้นกันอย่างร้อนแรงในปีที่แล้ว
เหรียญในกลุ่ม Smart contract ที่มีโมเดลดียวกับอีเธอเรียม แต่ทำธุรกรรมได้เร็วกว่า และที่สำคัญคือ มีค่าแก๊ซที่ถูกกว่า ยังคงเป็นธีมที่คาดว่าจะไปได้ต่อในปี 2022 เหรียญในกลุ่มนี้ เช่น Terra, Solana, Polygon, Avalanche รวมถึง BNB ของ Binance ล้วนแล้วแต่ปรับตัวขึ้นมาในระดับหลายพัน - หมื่นเปอร์เซนต์ และยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าอีเธอเรียมจะพยายามแก้ปัญหาด้วยการอัพเกรดและออก Ethereum 2.0 ออกมา แต่ก็ยังติดเรื่องค่าแก๊ซที่แพงโดดอยู่ แต่เหรียญในกลุ่มนี้ที่คาดว่าจะขุนไม่ขึ้นก็คือ Cardano (ADA) และ Ripple (XRP) ที่คาดว่าจะหลุดท็อป 10 ในปีนี้ด้วย
หนึ่งในคาดการณ์ของสำนัก Arcane Research ก็คือ USDC จะมาโค่น Tether หรือ USDT ลงจากแชมป์ stablecoin ในปี 2020 โดยมีปัจจัยสำคัญที่การเข้าไปเล่นในตลาด DeFi มากขึ้น หลังจากที่เข้าไปอยู่ใน 7 แพล็ตฟอร์มใหญ่ๆ ได้ แม้ว่าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการล้มเจ้าตลาดก็ตาม
Arcane Research มองว่าปี 2021 ที่ผ่านมา เป็นปีที่เหรียญมีมขึ้นลงได้อย่างหวือหวาน่าเหลือเชื่อ เช่น Shiba Inu ที่ขึ้นไปมากกว่า 40 ล้านเปอร์เซนต์ หรือเหรียญ Sqid Game ที่ขึ้นไปมากกว่า 75,000% ก่อนเจ้าของจะปิดโปรเจกต์ Rug pull เชิดเงินหนี แต่ในปีนี้ 2022 คาดว่าจะไม่ได้เห็นอะไรทำนองนี้มากนัก เพราะปี 2022 เป็นปีที่ภาคเศรษฐกิจจริงเข้าสู่โหมด "เสี่ยง" ทั้งจากสภาพคล่องที่ถูกดึงกลับ ดอกเบี้ยขาขึ้น หนี้มหาศาล และเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้คริปโตที่ไม่มีพื้นฐานอย่างเช่นเหรียญมีม เป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดของคริปโต
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า ปี 2022 เป็นปีที่เศรษฐกิจโลกน่าจะผันผวนหนัก ธนาคารกลางรายใหญ่ๆ เช่น เฟด จะยุติการอัดฉีดเงินคิวอี และขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อหาทางแก้ปัญหาเงินเฟ้อและจำกัดปริมาณหนี้ที่พุ่งสูง ซึ่งสภาพเหล่านี้จะลดความเฟ้อของฟองสบู่สินทรัพย์ โดยเฉพาะในตลาดคริปโตลงด้วย ขณะเดียวกัน เราน่าจะได้เห็นการที่รัฐบาลหลายแห่งหันมา "ควบคุม" ตลาดคริปโตกันมากขึ้นในปีนี้ หรือหาทางรีดภาษีจากตลาดคริปโตมากขึ้น