หลังเหตุการณ์ ‘ระงับการถอนเงินของ Zipmex’ เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าใดๆ ได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจไปทั่วทั้งวงการคริปโทเคอร์เรนซี นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้ผลกระทบแบบลูกโซ่ ในช่วง ‘Crypto Winter’ และกาลอวสานของอดีตเหรียญเบอร์ต้นกระดาน ‘LUNA-UST’
คุณ สัญชัย ปอปลี ซีอีโอของ Cryptomind Advisory ได้รวบรวมเหตุการณ์สำคัญๆ ที่สร้างผลกระทบให้วงการคริปโทเคอร์เรนซีในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อ้างอิงจากโพสต์ต้นฉบับของ ‘Ran NeuNer’ ที่โพสต์บนทวิตเตอร์ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ มีดังนี้
เหรียญ UST ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin แบบ ‘Algorithmic stablecoin’ คือผูกค่าเงินกับเหรียญ LUNA แทนที่จะเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เหมือน Stablecoin อื่นๆ สูญเสียมูลค่าอย่างรวดเร็วเมื่อมีวาฬเทขาย ทำให้มูลค่าร่วงเกือบ 100% ภายในไม่กี่วัน
Luna Foundation Guard (LFG) องค์กรไม่แสวงหากำไรซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศ Terra ได้เทขายบิตคอยน์ที่เก็บไว้เป็นกองทุนสำรองกว่า 80,394 บิตคอยน์ คิดเป็นเงินกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ณ ขณะนั้น เพื่อกู้สถานการณ์การราคา UST หลุด peg ร่วงต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
‘Lido-Staked ETH’ หรือ stETH เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่มีราคาผูกกับ Ethereum (ETH) แบบ 1:1 คล้าย Stablecoin บนแพลตฟอร์มของ Lido ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง และจะสามารถแลกคืนได้หลังขั้นตอนการอัพเกรดระบบ Ethereum 2.0 เสร็จสิ้น ในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา มีบางจังหวะที่ราคาของ sETH ต่ำกว่า ETH ถึง 10% (หลุด peg) สร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุนสาย DeFi ทั่วโลก
Blockfi และ FTX ได้ลงนามในข้อตกลง สำหรับสินเชื่อหมุนเวียนมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับตัวเลือกในการขายบริษัทให้กับ FTX ที่มูลค่า 240 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท และปกป้องเงินทุนของลูกค้า
กองทุนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ระดับโลก Three Arrows Capital หรือ 3AC ได้ยื่นล้มละลายต่อศาล Southern District รัฐนิวยอร์ก เพื่อปกป้องทรัพย์สินบริษัทจากการถูกยึด หลังบริษัทได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของ LUNA-UST รวมถึงขาดทุนจากการลงทุนแบบ Leverage ในสินทรัพย์อื่นๆ ในตลาดขาลง
‘Voyager Digital Ltd.’ โบรกเกอร์รายใหญ่ที่ปล่อยกู้ในแวดวงคริปโทเคอร์เรนซี ยื่นล้มละลายต่อศาลในนิวยอร์ก 1 สัปดาห์ หลังจากที่บริษัทเพิ่งประกาศระงับการทำธุรกรรมต่างๆ ได้แก่ ถอนเงิน ซื้อขายเหรียญ และฝากเหรียญ จากผลกระทบตลาดคริปโทฯ ที่ผันผวน และถูกบริษัท 3AC เบี้ยวชำระหนี้
ในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน แพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโท ‘Celsius’ ได้ประกาศยื่นล้มละลายเช่นกันในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา หลังประกาศระงับการทำธุรกรรมของลูกค้าในเดือนมิ.ย. โดยบริษัทเคยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ก่อนจะเกิดการถล่มเทขายจากลูกค้าจนเหลือต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และต้องประกาศระงับการทำธุรกรรม
บริษัท เทสล่า รายงานว่าสิ้นสุดไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้ขายบิตคอยน์ออกมา 75% และการขายทั้งหมดได้ทำให้เงินสดในงบดุลเพิ่มขึ้นมา มูลค่า 936 ล้านเหรียญ ซึ่งนักวิเคราะห์ จาก Barclays ประมาณการว่า Tesla บิตคอยน์ปริมาณดังกล่าวอาจถูกด้อยค่าไป 936 เหรียญเนื่องจากการปรับตัวลงของราคาตลาด
นักขุดบิตคอยน์พร้อมใจกันเทขายบิตคอยน์จำนวน 14,000 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาขณะนั้น ภายในวันเดียว นับเป็นสถิติสูงที่สุดตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2021 เนื่องจากต้นทุนการขุดบิตคอยน์สูงขึ้น ในขณะที่ราคาร่วงต่ำลง
Coinbase Global Inc. แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ประกาศปลดพนักงานจำนวน 1,100 ตำแหน่ง หรือราว 18% ของพนักงานทั้งหมด หลังจากถูกกระทบจากมูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ที่หายไปนับแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้าน Opensea แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปลดพนักงาน 20% หลังบริษัทสูยเสียวอลุ่มการซื้อขายกว่า 88% ท่ามกลางตลาด NFT ที่ซบเซาลง
และเหตุการณ์ล่าสุด ‘Zipmex Thailand’ ได้ประกาศระงับการถอนคริปโทเคอร์เรนซีจาก Z-Wallet กระเป๋าเงินที่ให้บริการ ZipUp ซึ่งเป็นการเหรียญฝากเพื่อรับโบนัส เนื่องจากบริษัทแม่ Zipmex Global ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องจากการลุงทุนใน Celsius และ Babel Finance
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดขณะนี้ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand เผยว่า บริษัทจะร่วมกับ Zipmex Global เพื่อฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจาก Celsius และ Babel Finance และกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อเข้ามาลงทุนในบริษัท