ในที่สุด Spot Ethereum ETF ก็เปิดให้มีการซื้อขายได้แล้วในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง NYSE, NASDAQ และ CBOE ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2024 โดยในวันแรกที่เปิดให้ซื้อขายมี Net Inflow อยู่ที่ 106.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแรงซื้อส่วนใหญ่มาจากฝั่งของ BlackRock และ Bitwise ในจำนวน 266.55 และ 203.02 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ส่วนในฝั่งของแรงขายก็ยังคงเป็นของ Grayscale Ethereum Trust (ETHE) ที่ 484.11 ล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็นประมาณ 5% ของ Net Asset ของ ETHE
ส่วนวันที่ 2 ที่เปิดซื้อขายมี Net Inflow อยู่ที่ -133.16 ล้านดอลลาร์ โดยแรงขายหลักยังมาจาก ETHE เหมือนเดิม ทำให้ Total Net Inflow ทั้งหมดอยู่ที่ -26.38 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ราคาของ Ethereum ก็ได้ปรับตัวลงประมาณ 6%
ที่มา https://sosovalue.xyz/assets/etf/us-eth-spot
สาเหตุของแรงขายจาก Grayscale Ethereum Trust (ETHE) นั้นเป็นกรณีเดียวกับของ Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ที่ก่อนหน้า ETF จะถูกอนุมัติ NAV ถูกซื้อขายที่ราคา Discount ค่อนข้างสูง ซึ่งกรณีของ ETHE เคยมี Discount สูงถึง 59.39% ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนขายทำกำไร นอกจากนี้ก็มีเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ ETF เจ้าอื่นๆเก็บกันไม่เกิน 0.25% แต่ ETHE เก็บสูงถึง 2.5% หรือมากกว่าเจ้าอื่นๆอย่างน้อย 10 เท่า ทำให้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดแรงเทขายในฝั่งของ ETHE
ที่มา: https://ycharts.com/companies/ETHE/discount_or_premium_to_nav
ส่วน Grayscale Ethereum Mini Trust (ETH) ที่เก็บค่าธรรมเนียมเพียง 0.15% แต่มี Inflow น้อย น่าจะเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือและโครงสร้างที่ Grayscale Ethereum Mini Trust (ETH) จะเหมาะกับรายย่อยมากกว่าสถาบันเลยอาจทำให้เงินก้อนใหญ่ไหลไปที่ ETF เจ้าอื่น
ที่มา: https://farside.co.uk/?p=1321
สำหรับมุมมองในช่วงแรกของการเปิดซื้อขาย ถ้านำข้อมูลมาเทียบกับ Spot Bitcoin ETF ในวันแรกๆ ก็มีแนวโน้มว่า Spot Ethereum ETF ในช่วงแรกอาจมีแรงเทขายค่อนข้างมากและต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามในช่วง 2 อาทิตย์แรก แม้ว่า Bitcoin ETF จะมีแรงซื้อจากจาก ETF เจ้าอื่นๆ เข้ามามากพอสมควรจนทำให้ Net Inflow เป็นบวก แต่ราคา Bitcoin ในช่วงเวลาดังกล่าวก็ปรับตัวลงไปได้ถึง 20% โดยทางเรามองว่าส่วนหนึ่งมาจากการ “Sell the news” และยังไม่คุ้นชินกับ Outflow ในส่วนของ GBTC
ส่วนในกรณีของ Ethereum ETF ทางเรามองว่าถ้ามี Inflow เข้ามารับแรงขายจาก ETHE ได้มากพอ ตลาดจะไม่ตกใจ Outflow ของ ETHE มากและไม่มีการ Sell the news เพราะตลาดรับรู้ว่า Ethereum ETF จะผ่านก่อนหน้านี้นานแล้ว ดังนั้นตัวแปรสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาดูหลังจากนี้คือ Inflow ว่าจะมีพฤติกรรมไปในทิศทางไหนและจะเข้ามามากแค่ไหน ถ้าแรงซื้อน้อยกว่าแรงขายมากๆ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะส่งผลต่อ Sentiment โดยรวมของตลาดและอาจมีการเทขายได้
แต่ในระยะยาวทางเราก็ยังคงมองบวกและคาดว่าจะมี Inflow เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ทั้งจากสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเช่นเดียวกับกรณีของ Bitcoin ETF แต่อาจเป็นจำนวนเงินที่น้อยกว่า เนื่องจากปริมาณการซื้อขายของ Ethereum ETF ในสองวันแรกเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐให้ความสนใจกับ Ethereum ETF มากในระดับหนึ่ง เพียงแต่ในสถานการณ์ตอนนี้ทางฝั่งตลาดหุ้นยังไม่ได้เข้าสู่จุดที่ตลาดเปิดความเสี่ยงเต็มที่ทำให้ยังมีเงินไหลเข้ามาในฝั่ง Ethereum ETF ไม่มากเท่าที่ควร
บทความโดย : นายอภินัทธ์ เดชดอนบม
นักวิเคราะห์ Cryptomind Advisory