“ การเคลื่อนไหวของทองคำในปี 2567 วายแอลจี มองว่าตลาดทองคำจะกลับมาคึกคักมากกว่าปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ และราคาทองคำมีโอกาสสร้างสถิติใหม่ที่คาดว่าจะได้เห็นภายในสองไตรมาสแรกของปี 2567”
วันนี้ YLG จะมาไขแนวโน้มราคาทองคำในปี 2567 จะไปอย่างไรต่อ ปัจจัยอะไรบ้างที่จะหนุนในราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับสถิติรอบใหม่ได้
ทั้งนี้ คาดภายในไตรมาสแรกปีหน้า มีโอกาสเห็นทองทำราคาสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ที่ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หลังตลาดคาดการณ์ไตรมาสแรกเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย
แนะนำนักลงทุน ระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ สามารถหาเข้าซื้อเก็งกำไรจากการแกว่งตัวในกรอบได้ ส่วนแนวต้านมองโซน 2,070 - 2,144 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ส่วนปี 2567 ระยะยาว รอย่อตัวก่อนทยอยเข้าซื้อสะสม ที่แนวรับ 1,902-1,847 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ขณะที่แนวต้านรอทดสอบ 2,144-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ด้านราคาทองคำในประเทศ 96.5% ประเมินแนวรับที่ 31,500-30,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านประเมินที่โซน 35,500-36,400 บาทต่อบาททองคำ
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ในปี 2566 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ ถือว่าเป็นปีที่ตลาดทองคำคึกคักเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะได้รับปัจจัยกดดันจากนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
แต่ในไตรมาสที่ 4/2566 เป็นช่วงที่เฟดเริ่มหยุดการขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ราคาทองคำได้ไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,144 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ถึงแม้ว่าล่าสุดราคาทองคำจะปรับลดลงมาแต่ระยะสั้นก็ยืนได้เหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าราคายังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
“ การเคลื่อนไหวของทองคำในปี 2567 วายแอลจี มองว่าตลาดทองคำจะกลับมาคึกคักมากกว่าปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ และราคาทองคำมีโอกาสสร้างสถิติใหม่ที่คาดว่าจะได้เห็นภายในสองไตรมาสแรกของปี 2567”
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ที่ต้องจับตา 4 ปัจจัย ดังนี้
เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่านโยบายดอกเบี้ยของเฟดจะเริ่มเป็นขาลงในช่วงดังกล่าวเป็นต้นไป ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อราคาทองคำในทันที เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ดังนั้น ทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับลดลงจึงส่งผลให้ทองคำน่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น
2. ธนาคารกลางทั่วโลกยังสะสมทองคำต่อเนื่อง โดยธนาคารกลางทั่วโลกส่วนใหญ่ยังคงดำรงสถานะซื้อทองคำในปี 2566 นำโดยธนาคารกลางจีน โปแลนด์ สิงคโปร์ ลิเบีย และอินเดีย ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าในปี 2567 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ธนาคารกลางทั่วโลกจะทำการซื้อสุทธิทองคำรอบใหญ่อีกครั้ง จากผลสำรวจสภาทองคำโลก (WGC) พบว่า ธนาคารกลางทั่วโลกเตรียมที่จะเข้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองเพิ่มอีก 24% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
3. ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ แม้ว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศจะเป็นที่รับรู้ของนักลงทุนมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่จะต้องจับตา เนื่องจากมีความขัดแย้งครั้งใหม่ๆ ที่สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างอิสาเอล-ฮามาส
โดยเป็นความรุนแรงในแถบทะเลแดง หลังกลุ่มฮูตีของเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทำการโจมตีเรือที่แล่นผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดง เพื่อตอบโต้กรณีที่อิสราเอลปฏิบัติต่อฉนวนกาซา ซึ่งล่าสุดสหรัฐได้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจ 10 ประเทศ เพื่อเตรียมตอบโต้ ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่ยังต้องจับตาว่าจะเกิดเหตุลุกลามบานปลายหรือไม่
4. นักลงทุนโยกเงินลงทุนเข้ามาพักในตลาดทองคำเพื่อหลีกหนีความเสี่ยงจาก ตลาดหุ้น ที่มีโอกาสปรับฐาน โดยแม้ว่าในช่วงนี้ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง แต่หากย้อนอดีตไปในช่วงเวลาที่มีการเริ่มลดดอกเบี้ยจริงๆแล้ว ในช่วงเวลานั้นตลาดหุ้นสหรัฐมักจะมีการย่อปรับฐาน เนื่องจากการที่บรรดาธนาคารกลางรีบเร่งในการลดดอกเบี้ย มักจะสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณการชะลอตัวลง แต่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อทองคำ
ส่วนปี 2567 ในภาพระยะยาว เนื่องจากราคาทองคำค่อนข้างเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงแล้ว YLG แนะนำให้รอการย่อตัวลงแล้วค่อยทยอยเข้าซื้อสะสม หากราคายืนเหนือโซนแนวรับ 1,902-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของเดือนก.ค. 2023 และเดือนก.ย. 2023 ตามลำดับ) ขณะที่โซนแนวต้านรอทดสอบที่ 2,144-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ 96.5% ประเมินแนวรับที่ 31,500-30,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านประเมินที่โซน 35,500-36,400 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.90 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 20 ธ.ค. 2566 เวลา 12.00น.)
ทั้งนี้ วายแอลจีมีคำแนะนำนักลงทุนในปี 2567 ลงทุนในลักษณะทำกำไรส่วนต่างราคาทองคำในประเทศ
โดยมีที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนตัวให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ต้อนรับปีใหม่กับโปรโมชันพิเศษให้นักลงทุนเปิดพอร์ตซื้อขายทองกับ YLG Online วางเงินเพียงประกัน 50,000 บาท (จากปกติ 100,000 บาท) หรือวางทองเริ่มต้น 2 บาททอง โดยสามารถซื้อทอง 99.99% ได้ทอง 1 กิโลกรัม หรือซื้อทอง 96.5% ได้ทองถึง 10-60 บาททอง สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3REoCQx ทั้งนี้หากนักลงทุนต้องการสะสมทองคำเพื่อสร้างความมั่งคั่งระยะยาว วายแอลจีแนะนำลงทุนแบบ Dollar Cost Average (DCA) ใช้วินัย ค่อยๆสะสม แทนการใช้อารมณ์ หรือออมทองคำอย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชันออมทอง by YLG (Get Gold by YLG) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันซื้อ-ขาย และสะสมทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และเข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ทโฟน โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย และสะสมทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาทเท่านั้น