แฟนคลับรุ่นใหญ่ หอบกุหลาบชมพูช่อโต ให้กำลังใจ “ครอบครัวเชื่อมจิต“ ลั่นศรัทธาเต็ม 100 % เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
จากกรณีที่ครอบครัวเชื่อมจิต เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งรอมอบดอกไม้ให้กำลังใจ
โดย นายพิสุทธิ์ สงวนนามสกุล อายุ 79 ปี แฟนคลับอาจารย์น้องไนซ์ หอบดอกกุหลาบสีชมพูช่อโต มาให้กำลังใจอาจารย์น้องไนซ์ และครอบครัว พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาจากย่านบางแค กทม. ยืนยันการมาครั้งนี้ไม่ได้มีการจัดตั้ง เดินทางมาด้วยตัวเอง และมาคนเดียว เมื่อช่วงเช้าทานโจ๊กเสร็จ ก็มีการไปหาซื้อดอกกุหลาบ และเดินทางมาที่กระทรวงพม.
สำหรับความเชื่อและความศรัทธานั้น ด้วยคำสอนอาจารย์น้องไนซ์ ทำให้เรานั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งตนได้ทำลักษณะนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว เนื่องจากตนเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อจรัญ ที่จังหวัดสิงห์บุรี อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตนฟังอาจารย์น้องไนซ์สอน ทำให้ตนสามารถนั่งสมาธิได้มากยิ่งขึ้น และเกิดจิตที่สงบขึ้น ซึ่งมองว่านี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตัวของตนเอง ทั้งนี้ตนยังไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมนั่งสมาธิกับอาจารย์น้องไนซ์ แต่มีการนั่งสมาธิร่วมกันทางแอปพิเคชั่นไลน์
ส่วนเรื่องของการเชื่อมจิตนั้น ระบุว่า การเชื่อมจิตในทางพระพุทธศาสนานั้นมีจริง เพียงแต่ใครจะพูดอย่างไร ใช้ศัพท์แบบไหนอาจจะไม่ตรงกัน สำหรับอาจารย์น้องไนซ์ หรือหลวงพ่อองค์ไหน ก็ตามตนคิดว่าการเชื่อมจิตเป็นเรื่องปกติในทางการนั่งวิปัสสนา กรรมฐาน
ขณะที่ทางสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันว่าการเชื่อมจิตไม่มีในพระไตรปิฎก นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า พระไตรปิฎกเกิดหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ฉะนั้นจึงไม่ใช่คำสอนที่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า 100% ทุกระเบียบนิ้ว แต่ตนคิดว่าหากคำสอนใดที่ไม่ทำให้เราเสียคนก็อยากให้ลองศึกษาดู และเมื่อลองดูแล้วเกิดประจักษ์ ทำให้จิตนิ่งสงบนั่งสมาธิได้ดีขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ตนตัดสินใจเองว่าจะให้การเคารพ
ทั้งนี้ตนได้ติดตามอาจารย์น้องไนซ์ มากกว่า 2 ปี ซึ่งวันนี้เตรียมดอกไม้เพื่อมาให้กำลังใจ อย่างอื่นมีแต่หัวใจที่ศรัทธาท่าน 100 %
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าลัทธิเชื่อมจิต อาจจะมีการแอบแฝงการหลอกลวงประชาชนนั้น สำหรับข่าวเรื่องการหลอกลวงประชาชน มีมาจากกระแสโซเชียลที่โหมกัน แต่ความจริงที่เราสัมผัสตนยังไม่เคยเสียเงินให้อาจารย์น้องไนซ์ สักบาทเดียว และไม่เคยมีใครมาเรียกร้องเอาเงินจากตน แม้กระทั่งแอดมินและเครือข่าย
ขณะที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงใยตัวของเด็ก ว่าอาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือถูกใส่ความเชื่อผิดๆให้กับตัวเด็กนั้น นายพิสุทธิ์ ระบุว่า เป็นการวิเคราะห์ทิพย์ ที่ไม่ได้มีการสัมผัสอาจารย์น้องไนซ์ โดยตรง และมาวิเคราะห์ว่าจะเป็นการหลอกลวงทำให้เสียหาย ซึ่งตนมองว่าการวิเคราะห์ทิพย์นี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าเชื่อถือ และส่วนตัวของตนนั้นย้ำว่าไม่เคยเสียเงินให้กับกลุ่มของอาจารย์น้องไนซ์แม้แค่บาทเดียว
