เจรจาเดือด "ครูหนุ่ย" กลับคำให้การ ปฏิเสธไม่ได้ประมาททำ "น้องอลิส" เสียชีวิต อ้างกลับคำพูดเพราะไม่รู้กฎหมาย
จากกรณีเกิดเหตุน้องอลิส เด็กหญิงวัย 3 จมน้ำเสียชีวิตปริศนาภายในสระน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระยะประมาณ 600 เมตร ซึ่งพ่อแม่และญาติพี่น้องของน้องอลิสติดใจการเสียชีวิตในหลายๆประเด็น
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ครูหนุ่ย ครูน้อย และครูปูเป้ เดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องคดีทางแพ่งกับทางครอบครัวของน้องอลิส
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น.นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ พร้อมด้วยนายปริญญา มณีวงษ์ พร้อมด้วยนางสาวพุทธมาลย์ นามจุมจัง และนางทองทิพย์ มณีวงษ์ นางสาวชานิตา นามจุงจัง พ่อแม่ย่าและยายของน้องอลิส พร้อมด้วยญาติพี่น้อง เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อยเพื่อทำการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางครู ทั้ง 3 คน และกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม ซึ่งในวันนี้ทางนายมุนินทร์ แก้วคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกามติดภารกิจ จึงได้มอบหมายทางคณะผู้บริหารประกอบด้วยปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม ผู้อำนวยการกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมี พ.ต.ท.ปัญญาโพธิ์ ขำสว.(สอบสวน) สภ.ยางชุมน้อย เป็นคนกลางในการเจรจา
สำหรับผลการเจรจาครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมานั้น ทางครอบครัวของน้องอลิส ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 15 ล้านบาท โดยแยกเป็นเรียกร้องค่าเสียหายจากทางครูทั้ง 3 คน เป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท และทางองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม เป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ในเรื่องนี้
ด้านทนายโนบิ ทนายความของพ่อแม่น้องอลิส ระบุว่า วันนี้เป็นการนัดเจรจากันเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากว่ามีการเสนอในการพูดคุยกันเรื่องตัวเลขค่าเสียหายจำนวน 15 ล้านบาท แต่ครั้งก่อนตกลงกันไม่ได้ เบื้องต้นหลังจากที่มีการพูดคุยกันจนหายข้อสงสัยคาใจกันแล้ว ตนก็ได้เสนอทางออกไว้สามอย่าง คือ 1.ครูจะต้องพูดความจริงกับทางครอบครัว 2.ขอโทษจากใจจริง และ 3.เยียวยาตามความเหมาะสมเพื่อที่จะทำให้คดีของเราเป็นไปได้ตามความประสงค์ของครอบครัว ซึ่งในประเด็นการเยียวยาสินไหมทดแทนครอบครัวไม่ได้ติดใจในยอด 15 ล้านบาท แต่ตอนนี้ให้เป็นกรณีที่คุณครูทั้งสามคนจะเสนอมา ทั้งการวางค่าสินไหมทดแทนในชั้นของพนักงานสอบสวน แต่ในส่วนใดที่ครอบครัวยังติดใจอยู่จะต้องได้รับการเยียวยาจากทาง อบต.คอนกาม หรือค่าใช้จ่ายใดใดที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดการศพและครอบครัว ก็จะนำเสนอต่อศาลในวันพิจารณาคดีตัดสินต่อไป
แต่ทุกฝ่ายเราก็จะมุ่งเน้นในการหาคำตอบต่อไปว่าเด็กเดินไปได้อย่างไร ใครพาไป ซึ่งในส่วนนี้ครูยอมรับว่าครูประมาทไม่ได้ดูแลบุตรหลานทางครอบครัวให้ดี โดยครูน้อย ครูปูเป้ ก็รับสารภาพว่าประมาทและพร้อมจ่ายเยียวยา 1 แสนบาทภายใน 15 วัน
แต่จู่ๆวันนี้ ครูหนุ่ย เปลี่ยนใจกลับลำไม่รับสารภาพว่าทำน้องอลิสเสียชีวิต และไม่ทำตามข้อตกลงที่พูดคุยกันกับครอบครัวของน้องวัย 3 ขวบ บนห้องประชุมชั้น 2 จนทำให้ทนายโนบิ ต่อว่าครูหนุ่ย ตระบัดสัตย์ และทำให้ต้องโต้เถียงกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนกว่า 2 ชั่วโมง
ภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจา ครูหนุ่ย ได้รีบเดินออกจากโรงพัก ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง โดยครูหนุ่ยไม่อยากตอบคำถาม บอกเพียงว่า ขอความเป็นส่วนตัว เพราะจะรีบไปทำธุระ ส่วนประเด็นที่กลับคำพูด ที่ตอนแรกบอกกับครอบครัวน้องว่าจะยอมรับสารภาพข้อกล่าวหา แต่ภายหลังกลับปฏิเสธข้อกล่าวหา เป็นเพราะเหตุใด ครูหนุ่ยตอบเพียงสั้นๆว่า"ครูไม่รู้กฎหมาย" ส่วนประเด็นเรื่องการชดใช้เยียวยาครอบครัวน้องวัย 3 ขวบ ครูหนุ่ยไม่ตอบ โดยอ้างว่าได้ให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว ขณะเดียวกัน ครูหนุ่ย ยอมรับว่าตอนนี้ตนเองค่อนข้างเครียด เพราะไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาให้ครอบครัวน้อง
ด้านนางทองทิพย์ มณีวงษ์ ย่าน้องอลิส เปิดเผยว่า ตอนเเรกที่มีการเจรจากันนั้น ครูหนุ่ยก็พยายามเเสดงอาการเสียใจ ร้องไห้ เเละการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งได้ข้อตกลงร่วมกัน เเต่หลังจากนั้นปรากฎว่ามากลับคำพูดภายหลัง จนต้องเจรจากันอีกรอบ โดยอ้างว่าสาเหตุที่พูดกลับไปกลับมา เพราะไม่รู้กฎหมาย นอกจากนี้ตอนเจรจากันรอบที่ 2 ครูหนุ่ย ยังพยายามจะขอกราบเท้าตน เพื่อจะขอทำตามเงื่อนไขเเบบเดียวกับครูน้อยกับครูปูเป้ เเต่ตนมองว่าครูหนุ่ยไม่มีความจริงใจ คำพูดเชื่อถือไม่ได้ จึงไม่รับเงื่อนไขดังกล่าวของครูหนุ่ย ให้ไปว่ากันในชั้นศาล ทางครอบครัวรับเพียงเงื่อนไขของครูปูเป้กับครูน้อยเท่านั้น
คุณย่า ยังบอกอีกว่า ความรู้สึกส่วนตัวกับครูน้อยเเละครูปูเป้ เริ่มดีขึ้น เพราะวันนี้เป็นครั้งเเรกที่ได้พูดคุยกันเเบบเปิดใจ หากคุณครูเข้ามาคุยกันเเบบนี้ตั้งเเต่เเรก คงไม่โกรธเคืองกันถึงขนาดนี้ เเต่ในส่วนของครูหนุ่ย ไม่ยอมรับความผิดใดๆเลย ทางครอบครัวจึงรู้สึกเเย่.
