จบดรามา “ฆ่าหมาบูชาผี” บ้านห้วยแกลบ จ.น่าน เลื่อนทำพิธีเลี้ยงผีโศลก

จบดรามา “ฆ่าหมาบูชาผี” บ้านห้วยแกลบ จ.น่าน เลื่อนทำพิธีเลี้ยงผีโศลก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แจงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ด้านหนุ่มคนโพสต์รีบข้ามจังหวัดมาขอขมา 

จากกรณีที่มี ผู้ใช้เฟซบุ๊กหนุ่มรายหนึ่ง โพสต์ข้อความแฉ หมู่บ้านใน ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน เตรียมทำพิธีฆ่าหมาบูชาผี จนเกิดเป็นกระแสต่อต้านในโลกออนไลน์อย่างหนัก 

ต่อมาวันที่ 8 ก.ย. 67 ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ลงพื้นที่บ้านห้วยแกลบ ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน พบว่าเป็นหมู่บ้านของชาวขมุ อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศลาว ขณะที่ทราบว่าหมู่บ้านนี้มีความเชื่อเรื่องการเลี้ยงผี และศาลากลางหมู่บ้าน ที่เรียกว่า “โศลก” หรือ “จอง” ไว้สำหรับทำพิธีเลี้ยงผีหมู่บ้าน รวมถึงทำพิธีสะเดาะห์ หากเกิดเรื่องไม่ดี และทำพิธีหย่าร้างกันด้วย 

ซึ่งแต่ละปีก็จะมีพิธีทำบุญเลี้ยงผีหมู่บ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยภายใน โศลก ก็จะมีแท่นนั่งทำพิธี ที่ตีเหล็กหรือตีมีด ที่สำหรับทุบฆ่าสัตว์ และที่ประกอบอาหาร 

ส่วนพิธีทำบุญเลี้ยงผีหมู่บ้าน เมื่อได้สัตว์ที่จะนำมาทำพิธีแล้ว ก็จะต้องเอาเดินวนรอบหมู่บ้าน 1 รอบ ก่อนจะนำเข้ามาในโศลกทุบหัว และนำไปทำอาหาร ระหว่างนั้นชาวบ้านก็จะพากันพูดบอก “ขอให้สิ่งไม่ดีหรือสิ่งชั่วร้ายออกไปจากหมู่บ้าน ให้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น” หลังจากนั้นอาจารย์ หรือ พ่อจ้ำ ก็จะทำพิธีชักเหล้าไห หรือ เหล้า เอามาไว้ตรงกลาง ก่อนจะเอาไม้เขี่ยที่เหล้าอุ แล้วนำไปใส่กระบอกข้างบนไว้ พร้อมกับบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาขอให้หมู่บ้านมีแต่เรื่องดีๆ เมื่อทำพิธีเสร็จก็นำอาหารมานั่งกินกันบนนี้ โดยหลังจากเสร็จพิธีผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะพากันมานอนเฝ้าที่โศลกจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายคาน แก้วแดง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านห้วยแกลบ หมู่ที่ 4 ต.ชนแดน กล่าวว่า “โศลก” ตรงนี้เปรียบสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจของคนในหมู่บ้าน ส่วนพิธีเลี้ยงผีหมู่บ้าน ก็เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวขมุ ที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องดรามาที่เกิดขึ้นที่มีวิพากย์วิจารณ์ว่า เป็นพิธีการเอาหมา หรือ สุนัขมาบูชายันต์ ตัวเองขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง และทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก 

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงว่า จุดเริ่มต้นที่จะมีการทำบุญเลี้ยงผี ในช่วงบ่ายของวันนี้ ( 8 ก.ย.) เป็นเพราะ เมื่อเดือน ส.ค.คนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกัน 2 ศพ ในระยะเพียงแค่ 3 วัน ทั้งที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจึงปรึกษากันว่าต้องทำพิธีเลี้ยงผีเพื่อแก้เคล็ด รวมทั้งมีการพูดคุยกันว่าจะมีการใช้หมามาทำพิธีเหมือนในอดีตหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป แล้วก็มีวัยรุ่นลูกหลานของหมู่บ้านนี้นำไปโพสต์ลงในโซเชียล จนทำให้เรื่องราวบานปลายเสียก่อน 

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยอมรับว่า ในอดีตสมัยบรรพบุรุษมีการใช้หมา มาทำพิธีเลี้ยงผีจริง แต่ตั้งแต่มี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ปี 2557 ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนพิธีกรรมมาใช้ แพะ หรือไก่แทน ส่วนพิธีทำบุญเลี้ยงผีหมู่บ้าน จะต้องทำทุกปีช่วงประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค. แต่หลังจากนั้นหากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในหมู่บ้าน หรือมีใครทำผิดกฎหมู่บ้าน ก็จะมีการทำพิธีเลี้ยงผี เพื่อเป็นการสะเดาะห์หรือขอขมา เหมือนอย่างเช่นครั้งนี้ 

ขณะที่เช้าวันนี้ (8 ก.ย. 67) มีการประชุมหมู่บ้านเกี่ยวกับเรื่องดรามาที่เกิดขึ้น ซึ่งวัยรุ่นคนที่เป็นต้นโพสต์ก็ได้เดินทางมาชี้แจงกับผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว และที่ประชุมก็มีข้อสรุปให้เลื่อนพิธีทำบุญเลี้ยงผีออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งยังมีมติร่วมกันว่าจะไม่มีโพสต์และพูดคุยกันเรื่องนี้อีก แต่การเลื่อนทำบุญเลี้ยงผีออกไปก็ยอมรับว่า ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่สบายใจ กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น บางคนถึงขั้นพูดว่า ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับหมู่บ้าน ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ 

ด้านนายตัน แก้วแดง อายุ 70 ปี คนทำพิธี ซึ่งคนในหมู่บ้านจะเรียกว่า อาจารย์ หรือ พ่อจ้ำ ยอมรับว่า เดิมทีจะมีกำหนดจะทำพิธีทำบุญเลี้ยงผีหมู่บ้าน ที่ศาลากลางของหมู่บ้าน หรือ โศลก จริง แต่หลังจากมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อเช้านี้ก็มีมติให้เลื่อนการทำพิธีออกไปก่อน เพราะเกิดปัญหาค่อนข้างมาก 

ตนเองได้ขึ้นมาทำพิธีนี้ ก็เพราะสืบทอดจากบรรพบุรุษ ซึ่งเพิ่งจะขึ้นมาทำพิธีนี้ได้ประมาณ 4 - 5 ปี หลังจากที่พี่ชายเสียชีวิตไป โดยยืนยันว่าตั้งแต่ตัวเองเริ่มทำพิธี ไม่เคยมีการฆ่าหมา จะมีแต่แพะหรือไก่ แล้วแต่ตกลงกัน ซึ่งเมื่อตกลงกันได้แล้ว ชาวบ้านก็จะร่วมกันทำบุญเพื่อนำเงินไปหาซื้อเเพะ ซื้อไก่มาทำพิธี นอกจากนี้ชาวบ้านก็จะช่วยกันทำข้าวต้มมัด หมากพลู ยาเส้น เพื่อไปเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์ที่หน้าหมู่บ้านและท้ายหมู่บ้านด้วย 

นายตัน บอกว่า พิธีเลี้ยงผีหมู่บ้าน ที่กำหนดจะทำพิธีในวันนี้ เป็นการทำพิธีเพื่อสะเดาะห์หลังมีคนตายติดกัน 2 ศพ ใน 3 วัน  ส่วนที่ผู้เฒ่าผู้แก่มีการปรึกษาหารือกันว่าจะใช้หมา มาทำพิธี ก็เพราะเห็นว่าพิธีกรรมในสมัยโบราณ จะใช้หมามาแก้เคล็ด ซึ่งจะดีกว่าสัตว์ชนิดอื่น แต่ต้องบอกว่าตอนนั้นยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง ก็จึงทำได้ แต่ปัจจุบันไม่มีการทำแบบนั้นแล้ว 

ตนเองในฐานะคนทำพิธี ก็เห็นด้วยกับการที่จะไม่ใช้หมามาทำพิธีเลี้ยงผีแล้ว เพราะถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และการเปลี่ยนมาใช้แพะกับไก่ ก็ทำพิธีได้เช่นเดียวกัน แต่ในส่วนของพิธีเลี้ยงผี ก็ยังต้องคงอยู่ เพราะเป็นความเชื่อ หากไม่ทำก็อาจจะเกิดเรื่องไม่ดี เนื่องจากผิดผีบ้าน 

ขณะที่ นางหวี นำดง อายุ 65 ปี แม่ของหนุ่มที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงโซเชียล ระบุว่า หลังเรื่องราวบ้านปลายใหญ่โต เมื่อวานนี้ลูกชายได้เดินทางจาก จ.ลำปางกลับมาที่บ้าน และเมื่อเช้านี้ก็ได้เข้าไปขอโทษผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน ซึ่งลูกชายก็ร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าไม่รู้จริงๆ รายละเอียดของพิธีกรรม เพราะลูกชายเกิดที่นี่ แต่ไปเรียนและไปมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดอื่น 

นางหวี บอกว่า เรื่องราวที่ลูกชายนำไปโพสต์ สืบเนื่องจากตนได้โทรไปพูดคุยว่าที่หมู่บ้านจะมีการทำบุญเลี้ยงผี เพื่อสะเดาะห์หลังมีคนตายติดต่อกัน ซึ่งลูกชายก็ไม่สบายใจว่าจะมีการใช้หมามาทำพิธี เพราะเขาเป็นคนรักสัตว์ ตอนนั้นจึงได้บอกกับลูกชายว่าจะไปปรึกษากับผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันไร ลูกก็นำไปโพสต์ลงบนโซเชียล จึงทำให้คนในหมู่บ้านไม่พอใจ เพราะมองเป็นการทำให้หมู่บ้านเสียหาย วันนี้ก็จึงต้องมาร่วมประชุมหมู่บ้านแ ละขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

นางหวี บอกว่า พิธีเลี้ยงผีหมู่บ้าน เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งยอมรับว่าแต่ก่อนมีการใช้หมามาทำพิธีจริงๆ แต่ในปัจจุบันก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการนำหมามาทำแบบนั้นอีก แล้วจะใช้หมู แพะ หรือไก่แทน แต่ส่วนตัวก็มองว่าพิธีเลี้ยงผียังต้องมีต่อไป เพราะตัวเองก็มีความเชื่อและนับถือผีเช่นกัน ทั้งยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีอยู่ปีหนึ่งหมู่บ้านไม่ได้ทำพิธีเลี้ยงผี ก็เกิดพายุครั้งใหญ่แบบไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งพายุได้ซัดบ้านพังไปกว่า 20 หลัง รวมถึงบ้านของตัวเองด้วย 

นางหวี บอกว่า หลังเรื่องราวบานปลายตัวเองก็ได้บอกให้ลูกชายลบโพสต์ต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด และลูกชายก็รับปากจะไม่โพสต์อะไรแบบนี้อีก เพราะถ้าตามความเชื่อก็ถือเป็นเรื่องผิดของหมู่บ้าน