ปกรณ์วุฒิ เตรียมไฮไลท์อภิปรายนโยบายรัฐบาล ขออุบไว้ก่อน

ปกรณ์วุฒิ เตรียมไฮไลท์อภิปรายนโยบายรัฐบาล แต่ขออุบไว้ก่อน เจียดเวลาฝ่ายค้าน - รบ. ให้ พปชร. ร่วมอภิปราย ยังไม่กล้าอ้าแขนรับ ขอรอความชัดเจน

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึง กรอบเวลาอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่าฝ่ายค้านได้ 13 ชั่วโมง ซึ่งทางพรรคประชาชนได้มีการจัดวางผู้อภิปรายกว่า 30 คนไว้แล้ว และมีพรรคเล็กที่ขอเวลามาอีกเล็กน้อย โดยจะเน้นเนื้อหาเป็นสำคัญ ซึ่งจะเป็นการอภิปรายภาพรวม ไม่ได้เจาะจงให้ความสำคัญกับอะไรเป็นพิเศษ และอยากอภิปรายให้ครบถ้วนในนโยบายสำคัญๆ และลงรายละเอียดในนโยบายที่ฝ่ายค้านยังข้องใจสงสัย และให้เวลากับทุกประเด็น ยอมรับว่ามีไฮไลท์อยู่บ้างแต่ขออุบไว้ก่อน แต่คงไม่ได้เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งแบบครึ่งวัน ก็จะกระจายไปทุกประเด็น

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนใน 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล หนึ่งปีที่ผ่านมาโจทย์ของประเทศเปลี่ยนแปลงไปบ้างและในเล่มการแถลงนโยบายก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ทางเราก็อยากจะตรวจการบ้าน ว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ต่อให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่คณะรัฐมนตรีก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงขนาดนั้น และอีกสามปีต่อไปจะทำได้สำเร็จตามที่แถลงหรือไม่

ส่วนจะมีการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ หลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จสิ้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงต้องรอให้มีผู้นำฝ่ายค้านก่อน ซึ่งสัปดาห์หน้าคาดว่าประธานจะเสนอชื่อผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อให้มีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จึงจะมีความชัดเจนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ส่วนพรรคพลังประชารัฐมีการติดต่อขอเวลาในการอภิปรายในครั้งนี้แล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ทราบว่าพรรคพลังประชารัฐได้มีการประสานไปทางวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ซึ่งวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลเห็นตรงกันว่า พรรคพลังประชารัฐก็เป็นพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งสองฝ่ายก็จะตัดเวลาบางส่วนเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐไปจัดสรรกันภายในเอง โดยไม่ได้ใช้เวลาของฝั่งใดฝั่งหนึ่งโดยเฉพาะ

เบื้องต้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง อาจจะแบ่งเวลาของฝั่งละ 15 นาที โดยประมาณ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐไม่ได้แจ้งว่าจะเป็นการขอเพื่ออภิปรายในฝั่งรัฐบาลหรือฝั่งฝ่ายค้าน แต่เป็นการประสานมา เพื่อขอเวลาให้สมาชิกได้อภิปรายมากกว่า ตนไม่ได้ไปก้าวก่ายว่าจะต้องอภิปรายเรื่องอะไร เพราะเป็น สส.ในสภาเหมือนกัน ก็มีน้ำจิตน้ำใจกันทั้งสองฝ่าย ก็แบ่งเวลาให้นิดๆหน่อยๆ ส่วนเขาจัดสรรเวลาอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา

หลังจากนี้จะคุยกับพรรคพลังประชารัฐเรื่องการเข้าร่วมวิปฝ่ายค้านหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวต้องรอความชัดเจน ว่าถ้าจะอยู่ฝ่ายค้าน จะมาอยู่ฝ่ายค้านกี่คน เพราะพรรคพลังประชารัฐมี 40 ที่นั่ง แต่ถ้าจะบอกว่าพลังประชารัฐเป็นฝ่ายค้านแล้ว จะเอาโควตา สส. 40 ที่นั่ง แต่ท้ายที่สุดมีมาโหวตตามมติวิปฝ่ายค้านไม่ถึงครึ่ง ก็คงไม่ยุติธรรม และไม่สามารถอธิบายกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นได้ เข้าใจได้ว่าพรรคพลังประชารัฐได้โควตา 40 ที่นั่ง แต่โหวตจริงไม่ถึงครึ่ง ซึ่งคิดว่าน่าจะต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ ถ้ายังไม่ชัดเจน คงไม่สามารถให้เข้ามาร่วมอย่างเป็นทางการได้ แต่สามารถพูดคุยประสานงานได้ตามปกติ.