ฟื้นฟูแม่สายยังหนัก หลายครอบครัวยังเข้าอาศัยบ้านไม่ได้

30 ก.ย. 67

 

ฟื้นฟูแม่สายยังหนัก หลายครอบครัวยังเข้าอาศัยบ้านไม่ได้ ทหาร-ส่วนราชการ-จิตอาสา ระดมพลช่วยเคลียร์ต่อเนื่องนานกว่าสัปดาห์ 

วันที่ 30 ก.ย. 67 ทหารจากกองบัญชาการกองทัพไทย ยังคงจัดกำลังพลจากหน่วยต่างๆ โดยเฉพาะมณฑลทหาบกที่ 37 ร่วมกับภาคส่วนราชการ และกลุ่มจิตอาสาภาคเอกชน ให้ความช่วยหลือทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่ชุมชนเหมืองแดง เกาะทราย ผามควาย และไม้ลุงขน อ.แม่สาย จ.เชียงราย 

โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้กำลังคนเป็นหลักในการเคลียร์ดินโคลน และขยะ ออกจากบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากเครื่องจักรเข้าลำบาก และเข้าไม่ถึง 

ฟื้นฟูแม่สายยังหนัก หลายครอบครัวยังเข้าอาศัยบ้านไม่ได้

ขณะที่ชาวบ้านมีบ้านเรือนอยู่ติดกับริมแม่น้ำสาย หลายรายต้องคอยออกมาดูปริมาณน้ำในแม่น้ำสาย และดูแนวบิ๊กแบ็คที่ส่วนราชการทำไว้ว่ามีความั่นคงแข็งแรงหรือไม่ เพราะเกรงจะเกิดน้ำท่วมซ้ำ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนพายุระลอกใหม่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นดือน ต.ค.นี้ โดยชาวบ้านระบุว่าแม้น้ำสายจะแห้ง แต่ก็ยังคงมีปริมาณน้ำที่มาก หากมีฝนตกหนักอาจล้นแนวกั้นได้ ดังนั้นยังต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา 

ฟื้นฟูแม่สายยังหนัก หลายครอบครัวยังเข้าอาศัยบ้านไม่ได้

อย่างไรก็ตามในพื้นที่ อ.แม่สายยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ทำให้ดินโคลนกลายเป็นดินเหลว ยากต่อการตักหรือเคลียร์ออกจากพื้นที่ ทำให้การพื้นฟูเป็นปด้วยความล่าช้า แม้ทางภาครัฐ และภาคเอกชนจิตอาสาจะระดมเครื่องจักรกว่า 120 คัน แบ่งการทำงานออกเป็น 5 โซน แต่การเคลียร์ดินโคลนที่สูงถึง 1-2 เมตร มานานกว่าสัปดาห์ก็ยังเคลียร์พื้นที่ได้ไปเพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้หลายหมู่บ้านชาวบ้านยังไม่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านได้ รวมทั้งประปาและไฟฟ้าก็ยังใช้การไม่ได้ 

ฟื้นฟูแม่สายยังหนัก หลายครอบครัวยังเข้าอาศัยบ้านไม่ได้

เช่นเดียวกันบ้านของ นายสุจินดา ซาวภักดี ชาวบ้านในชุมชนเกาะทราย ต.แม่สาย ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาย จึงทำให้มีดินโคลนทับถมตัวบ้านสูงกว่าครึ่งของตัวบ้าน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปอาศัยนอนได้ ต้องอาศัยบ้านญาติด้านนอกเป็นที่นอนมาตั้งแต่การเกิดน้ำท่วมใหม่ๆ 

ฟื้นฟูแม่สายยังหนัก หลายครอบครัวยังเข้าอาศัยบ้านไม่ได้

นายสุจินดา กล่าวว่า น้ำท่วมปีนี้หนักสุดในรอบ 40-50 ปี  ทำให้ทรัพย์สินภายในบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ทำมาหากิน ซึ่งบ้านประกอบอาชีพทำเต้าหู้ก้อนขาย ได้รับความเสียหายทั้งหมด จนถึงขณะนี้ก็ยังเข้าบ้านไม่ได้แ ละยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ไม่เพียงแต่ครอบครัวตน แต่คนในชุมชนที่มีอยู่กว่า 700 หลังคาเรือน โดนลักษณะเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็ยังเข้าไปอาศัยยังบ้านเรือนไม่ได้ เพราะมีดินโคลนหนาแน่น การเข้าออกพื้นที่ลำบาก และประปา ไฟฟ้ายังไม่สามารถใช้การได้ มีเพียงบางครอบครัวยังพออาศัยอยู่ชั้น 2 ของบ้านได้ 

การฟื้นฟูนอกจากจะมีความลำบาก แต่ก็ยังมีความโชคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อส.พันเกียรติ อ่อนจงไกล สังกัดร้อย อส.อ.เมืองสกลนครที่ 3 กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จ.สกลนคร และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อส.ตะวัน ประทุมรัตน์ สังกัด ร้อยอส.อ.ส่องดาว ที่13 กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จ.สกลนคร ได้ขุดพบสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง น้ำหนักประมาณ 3 บาท 1 เส้น ขณะปฏิบัติงานช่วยทำความสะอาดภายในบ้านเลขที่ 135/1 หมู่ที่ 2 ต.แม่สาย โดยพบสร้อยคอทองคำจมอยู่ในโคลน ก่อนจะประกาศตามหาเจ้าของ จนพบว่าเป็นของนายรังสรรค์ วรรณสี อายุ 58 ปี  จึงนำทองไปส่งคืนท่ามกลางความดีใจของเจ้าของ ก่อนจะกล่าวขอบคุณในน้ำใจของ 2 เจ้าหน้าที่อาสาที่นำสร้อยคอทองคำมาส่งคืน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส