เรืองไกร ร้อง กกต. สอบ อิ๊งค์ แพทองธาร ฝ่าฝืน พรป.พรรคการเมือง ม.28

20 ต.ค. 67

เรืองไกร ร้อง กกต. สอบ อิ๊งค์ แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฝ่าฝืน พรป.พรรคการเมือง ม.28 ปล่อยทักษิณครอบงำพรรค ทั้งที่ไม่ใช่สมาชิก

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ขอให้ กกต. ตรวจสอบว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่ทำให้พรรคเพื่อไทยหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 28 หรือไม่ และเป็นเหตุให้ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 92 (3) เพราะกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 28 หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือดังกล่าว มีเนื้อหาเป็นข้อ ๆ ดังนี้

             ข้อ 1. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ ect.go.th หน้า รวมข่าว กกต. ได้ลงสำเนาข่าวต่าง ๆ รวม 23 ข่าว ซึ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับการที่นายทะเบียนตั้งกรรมการสอบกรณีการร้องยุบพรรคเพื่อไทย ดังความควรแจ้งแล้วนั้น

             ข้อ 2. การตั้งกรรมการสอบกรณีการร้องยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งพ่วงพรรคร่วมรัฐบาลเดิม 6 พรรคนั้น น่าจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นคำร้องกล่าวหาคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 รวมอยู่ด้วย ซึ่ง กกต. ไม่ควรทำการตรวจสอบต่อไป เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งที่ 52/2566 ไว้เป็นแนวทางแล้ว

             ข้อ 3. ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งที่ 52/2566 ไว้เป็นแนวทาง ดังนี้

             “... แต่ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นการใช้อำนาจในทางการเมืองของคณะรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นองค์กรฝ่ายบริหารในความสัมพันธ์เฉพาะกับรัฐสภา อันอยู่ในความหมายของการกระทำของรัฐบาล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (1) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา”

             ข้อ 4. กรณีการตั้งกรรมการสอบตามข่าวที่ปรากฏนั้น มีมาตรา 21 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 ที่ควรนำมาประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งมาตรา 21 วรรคสี่ บัญญัติว่า “ให้หัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก เพื่อการนี้ หัวหน้าพรรคการเมืองจะมอบหมายเป็นหนังสือให้เลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิก พรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก หรือกรรมการบริหารอื่นของพรรคการเมืองคนหนึ่งหรือหลายคน เป็นผู้ทำการแทนก็ได้”             

             ข้อ 5. ตามเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ลงข่าวไว้ส่วนหนึ่งว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร

             ข้อ 6. ดังนั้น กรณีการกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมิใช่สมาชิก กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่ทำให้พรรคเพื่อไทย หรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 28 หรือไม่ นั้น จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะเป็นผู้แทนของพรรคเพื่อไทยในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ ตามความในมาตรา 21 วรรคสี่ ดังกล่าว

             ข้อ 7. กรณีที่นายทะเบียนได้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานนั้น ย่อมเป็นไปตามความในมาตรา 93 ซึ่งจากข่าวที่ กกต. เผยแพร่ไว้แล้ว 23 ข่าวข้างต้น จึงขอส่งสำเนาข่าวอื่น ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาว่า พรรคเพื่อไทยยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามากระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่ทำให้พรรคเพื่อไทยหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 ประกอบมาตรา 29 หรือไม่

             ข้อ 8. สำหรับพรรคการเมืองอื่น 6 พรรค ขอให้ กกต. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม