ทนายบอสพอล มั่นใจหลักฐานสู้คดี ยันมีหลักฐานโอนเงินกว่า 10 ล้าน ล่าสุดให้นักร้องสาว ก.

ทนายบอสพอล ยันมีหลักฐาน โอนเงินกว่า 10 ล้าน ล่าสุดโอนอีก 4 แสนค่าเอกสาร ให้นักร้องสาว ก. แลกไม่ร้อง ปคบ. พร้อมมั่นใจหลักฐานสู้คดี พร้อมขู่ สคบ. หากเพิกถอนใบอนุญาตทำธุรกิจ ฟ้องกลับ ม.157 แน่นอน 

วันที่ 21 ต.ค. 67 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นาย วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เจ้าของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอลว่า ตอนนี้ตนยังไม่มีโอกาสได้เยี่ยมบอสพอล เนื่องด้วยติดปัญหาทางเอกสาร 

ซึ่งจุดประสงค์ที่เข้าเยี่ยม เพื่อต้องการอัปเดตงานเรื่องคดีมากกว่า ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ถึงแนวทางการต่อสู้คดีว่าต่อไปเราจะทำอะไรกัน โดยมีทีมทนายของบอสปีเตอร์ บอสแซม และตนที่เป็นทีมหลัก ซึ่งขณะนี้เราได้เชื่อมโยงข้อมูล เป็นทีมเดียวกันแล้ว 

ตอนนี้ทีมทนายก็จะมีการวิเคราะห์กันว่าฝั่งชายอยู่กันอย่างไร ฝั่งหญิงอยู่กันอย่างไร ถ้าลูกความเราทั้งสองกลุ่มอยู่ในเรือนจำกันแบบนี้ อยู่กันได้ไหม สภาพจิตใจเป็นอย่างไร เพื่อประเมินสถานการณ์กันถูกว่าเราจะพูดเรื่องอะไรต่อไป ส่วนสภาพจิตใจของบอสพอลนั้น เขาก็สภาพจิตใจแข็งแกร่ง แข็งแรงคุยกับเพื่อนทุกคนปกติ 

เมื่อถามว่า มีใครน่าเป็นห่วงหรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงสุขภาพของบอสวินมากกว่า เพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งก็ต้องหาวิธีการขอประกันตัวออกมา ซึ่งก็ต้องให้หมอตรวจก่อนว่าพอที่จะย้ายได้หรือไม่ หากหมอตรวจแล้วบอกว่ายังอยู่ที่นี่ได้ก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อ แต่หากหมอเห็นว่าย้ายได้ก็ต้องย้าย 

เมื่อถามว่า มีใครฝากข้อความอะไรถึงครอบครัวบ้างหรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ก็ฝากกันเยอะ ซึ่งตนก็จะนำไปแจ้งเลขาแต่ละคนต่อไป เมื่อถามว่า บอสพอลกังวลในเรื่องคดีหรือไม่ เพราะอาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่กังวล ตนคุยกับลูกความประจำว่า ข้อหาหลักเขาแจ้งกันไปแล้ว อะไรที่ต่อท้ายแม้ว่าโทษจะหนักกว่า แต่ถ้าเกิดข้อหาหลักรอด ข้อหาอื่นก็รอด เช่น คดีนี้มีการแจ้งข้อหาคดีฉ้อโกงประชาชนเป็นหลัก ถ้าเราชนะคดีฉ้อโกงประชาชน คดีฟอกเงินก็จะหลุดตามซึ่งบอสพอลก็ไม่ได้กังวลอะไร 

เมื่อถามว่า บอสพอลได้เรียกร้องให้ยื่นเรื่องขอประกันตัวหรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ตนก็บอกเขาตรงๆ ว่าไม่น่าจะยื่นประกันได้ในช่วงเวลาอันใกล้ ก็ต้องรอทางตำรวจ  ทำงานไปถึงระดับหนึ่ง ให้พยานหลักฐานเขานิ่งก่อนแล้วเราค่อยยื่นประกันตัวก็ได้ในช่วงนั้น ไม่ได้ซีเรียสอะไร เมื่อถามว่าเขาได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ก็เตรียมพยานหลักฐานกัน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ทั้งนี้ตนมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ และข้อเท็จจริงที่มีอยู่ ก็ไม่ได้กังวลอะไร ซึ่งเป็นหลักฐานเอกสารเป็นหลัก โดยเฉพาะการสั่งซื้อก็สั่งขายปกติ 

เมื่อถามถึงกรณีที่เชิญชวนทุกคนมาเปิดบิลนั้น นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า เรียกว่าเปิดบิลดีกว่า ซึ่งตนมั่นใจหลักฐานที่สู้คดี เราจะเก็บไว้ใช้ในชั้นพิจารณาส่วนหลักฐานที่ขอปล่อยตัวชั่วคราวจะเป็นหลักฐานอีกชุดหนึ่งที่เป็นความจำเป็นว่าทำไมเราถึงต้องออกมาประกันออกมา เพื่อจะดำเนินการเตรียมคดีหลักๆ ก็เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของสิทธิ์ของผู้ต้องหาแต่ละราย อย่างไรก็ตามทางบริษัทดิไอคอนจะเปิดให้ผู้เสียหายลงทะเบียนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ และจากนั้นจะปิดการลงทะเบียน เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นผู้เสียหายที่เราจะเยียวยาได้หรือไม่ได้ แต่ขณะนี้บัญชีของบอสพอลยังโดนอายัดอยู่ 

เมื่อถามว่า หากไม่ได้รับการประกันตัว การเยียวยาจะชะงักไปหรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า การเยียวยาอยู่ที่ว่าบัญชีธนาคารถูกอายัดหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ใครอยู่ข้างในหรืออยู่ข้างนอก คนที่อยู่ข้างในเอาเอกสารเข้าไปให้เซ็นได้ แต่อยู่ที่ว่าเราพิจารณาว่ารายนั้นควรได้รับการพิจารณาเยียวยาหรือไม่ 

เมื่อถามว่า จะมีการยื่นเรื่องอุทธรณ์ในการอายัดทรัพย์ของ ปปง.หรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ต้องคุยกับทีมทนายก่อนว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งอาจจะมีการยื่นให้ ปปง.ปลดล็อกการอายัดทรัพย์บางส่วน 

อย่างไรก็ตามทุกคนก็เริ่มอยู่ปรับตัวกันได้ ไม่มีอะไรน่ากังวลต้อง ขอบคุณทัณฑสถานหญิงกลางที่ดูแลลูกความขอบตนทุกคนดีมาก และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ดูแลดี เขาคงจะปรับตัวได้ ส่วนบอสมิน พีชญา นั้นก็ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ดูแลดี และคิดว่าเขาคงจะปรับตัวได้ ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ถาม อาหารก็คงจืด แต่เชื่อว่าเขาก็กินกันได้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดูแลดี 

ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบโทรศัพท์เครื่องที่คนขับรถบอสพอลนำมยื่นให้ล่าสุด ปรากฏว่าคลิปเสียงไม่ใช่เอไอ แต่เป็นคลิปเสียงของคนจริงๆ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแยกออกมาจากเรื่องคดี ซึ่งคดีนี้มีประชาชนมากล่าวหาเราว่าเราฉ้อโกง ส่วนคดีของ พล.ต.ต.จรูญเกียติก็เป็นคดีเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ทุจริต เกี่ยวกับสินบนต่างๆ ขอให้แยกเรื่องกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแน่นอน เมื่อถามถึงกรณีทนายแบรนด์เนม นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่มีหรอกไป อย่าไปเชื่อมาก แบรนด์เนมไหน ส่วนนักร้องเรียนผู้หญิงตบทรัพย์ 10,000,000 บาทนั้น อักษรย่อ ก.ไก่ ซึ่งตนทราบรายละเอียดหมดแล้ว ตั้งแต่วันแรกๆ และมีพยานบุคคลยืนยัน ซึ่งทราบว่ามีการจ่ายอีก 400,000 บาท สุดท้ายไปแล้วเป็นการจ่ายเงินสด ซึ่งเป็นการดำเนินการภายในปีนี้ โดยมีคนแนะนำอีกทีนึง ส่วนมาตบทรัพย์นั้น เขาอ้างว่าจะไปร้อง ปคบ. มาบอกว่าธุรกิจดังกล่าวเป็นการขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่อะไรทำนองนี้ 

เมื่อถามว่า ทำไมบอสพอลถึงกลัวนักร้องท่านนี้ เขามีแบ็กหนาหรืออย่างไร  นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าทุกคนที่ทำธุรกิจไม่อยากมีปัญหาขึ้นศาล หรือไปเจอเจ้าหน้าที่ต่างๆ ไม่อยากมีปัญห าถ้ามันจบแล้วก็จบ เมื่อถามว่ามีคลิปเสียงเทวดาออกมาแล้ว ทำไมยังต้องจ่ายเงินกับ นักร้องเรียน ก.ไก่อยู่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า คลิปเสียงที่ปล่อย ตนทราบว่าเป็นคลิปเก่าตั้งแต่  2 ปีที่แล้ว ส่วนเรื่องตบทรัพย์เพิ่งจะปีนี้ 

เมื่อถามว่า มีนักร้องคนอื่นนอกจากนักร้องเรียนหญิง ก. หรือไม่ ทนายความ หัวเราะ บอกว่า “เดี๋ยวมันจะลาม บอกไม่ได้” ก่อนย้ำว่าไม่ใช่นักการเมือง เพราะนักการเมืองเขาไม่ค่อยยุ่ง ขณะเดียวกันตนมีข้อมูลเพียงเท่านี้ไม่รู้ว่ามีนักร้องท่านอื่นมาตบทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหรือไม่ แต่ที่มีข้อมูลตอนนี้ ก. ตบทรัพย์มากที่สุด ส่วนที่เหลือรายละเอียดอยู่กับตำรวจ 

เมื่อถามว่า ถ้าระหว่างนี้ สคบ.เพิกถอนใบอนุญาติจะเป็นอะไรไหม นาย วิฑูรย์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา บอสพอลยังให้การ สคบ. ไม่จบ แต่ทางตำรวจปคบ. เข้ามาจับเสียก่อน ซึ่งตรงนี้ยังต้องให้การเพิ่ม ถ้าวันนี้ยกเลิกใบอนุญาตตลาดตรงของบริษัทฯ ตนฟ้องแน่นอน เพราะตามกฎหมาย บอสพอลยังให้การไม่จบ โดยทางบริษัทต้องให้ปากคำจนเสร็จสิ้นก่อนถึงเริ่มจะพิจารณาเพิกถอนได้ ต่อมาถ้าดูแล้วน้ำหนักของการร้องเรียนมีมากกว่าสิ่งที่ทางเราชี้แจงจะเพิกถอนก็สามารถทำได้ตามขั้นตอน แต่ถ้าเกิดวันนี้มาบอกว่าไม่ฟังข้อมูลเพิ่มเติมและตัดตรงนี้และเพิกถอนเลยก็มีเรื่องกันแน่ โดยจะมีการฟ้องตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

เมื่อถามว่าเป็นการข่มขู่หรือไม่ นายวิฑูรย์ บอกว่า ไม่ได้ข่มขู่แต่เป็นไปตามกฎหมาย  โดยตอนนี้ทาง สคบ. ยังไม่ได้มีการประสานเข้ามาขอข้อมูลเพิ่มเติม