Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
GDP ไทย Q3 ปี 2567 โต 3.0% เกินคาดการณ์ แต่ทำไมถึงรั้งท้ายในอาเซียน
โดย : ก่อกิจ เกตุบรรเทิง

GDP ไทย Q3 ปี 2567 โต 3.0% เกินคาดการณ์ แต่ทำไมถึงรั้งท้ายในอาเซียน

20 พ.ย. 67
16:00 น.
|
183
แชร์

แม้ข่าวดีจะมาเยือนเศรษฐกิจไทย เมื่อตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ปี 2567 พุ่งสูงถึง 3.0% เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ แต่เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในอาเซียนแล้ว เรายังคงรั้งท้ายตาราง บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเบื้องหลังการเติบโต วิเคราะห์ปัจจัย ความท้าทาย และโอกาสของเศรษฐกิจไทยในอนาคต เพื่อหาคำตอบว่า การเติบโตครั้งนี้จะยั่งยืนหรือไม่? และเราจะเร่งเครื่องแซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไร?

GDP ไทย Q3 ปี 2567 โต 3.0% เกินคาดการณ์ แต่รั้งท้ายในอาเซียน

ประเทศ

ไตรมาส 1 (%)

ไตรมาส 2 (%)

ไตรมาส 3 (%)

เวียดนาม

5.9

6.9

7.4

ฟิลิปปินส์

5.8

5.2

6.4

มาเลเซีย

4.2

5.3

5.9

อินโดนีเซีย

5.1

5

4.9

สิงคโปร์

3

2.9

4.1

ไทย

1.6

2.2

3

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3 ปี 2567 กลับส่งสัญญาณบวกอย่างมีนัยสำคัญ โดยขยายตัวสูงถึง 3.0% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และเป็นการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1 และ 2 ที่ขยายตัว 1.6% และ 2.2% ตามลำดับ บ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในบริบทของภูมิภาคอาเซียน การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังคงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยเวียดนามยังคงเป็นผู้นำ ด้วยอัตราการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 3 สูงถึง 7.4% ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ที่ 6.4% และมาเลเซียที่ 5.9% สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เท่าทันกับประเทศเพื่อนบ้าน

ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของ GDP

GDP ไทย Q3 ปี 2567 โต 3.0% เกินคาดการณ์ แต่รั้งท้ายในอาเซียน

การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3 ได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยหลัก ประกอบด้วย

  • การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเชิงบวกต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการ
  • การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน: อัตราการจ้างงานและรายได้ของประชาชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้น
  • การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว: แม้การลงทุนโดยรวมจะยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ แต่เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว สืบเนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น

ความท้าทายและโอกาสของเศรษฐกิจไทย

แม้เศรษฐกิจไทยจะแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัว แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่

  • ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว: ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย
  • อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง: เป็นแรงกดดันต่อกำลังซื้อของประชาชน
  • ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง: เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของการบริโภคในระยะยาว

ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังมีโอกาสที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยอาศัย

  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง จะช่วยกระตุ้นการลงทุน และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ
  • การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล: เป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก

ทิศทางเศรษฐกิจไทย ก้าวข้ามความท้าทาย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

GDP ไทย Q3 ปี 2567 โต 3.0% เกินคาดการณ์ แต่รั้งท้ายในอาเซียน

แม้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ปี 2567 จะบ่งชี้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เด่นชัด ทว่าการเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงภาวะการณ์ที่เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเตรียมรับมืออย่างรอบคอบ

ความท้าทายเชิงโครงสร้าง ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และภาระหนี้ครัวเรือนที่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของการบริโภคในระยะยาว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นความเสี่ยงเชิงระบบที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม ในขณะเดียวกัน โอกาสในการพัฒนายังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก

บทบาทของภาครัฐถือเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม เพื่อนำพาประเทศให้ก้าวข้ามผ่านความท้าทาย และคว้าโอกาสในการพัฒนา โดยควรให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด ควบคุมการใช้จ่ายภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความยั่งยืนทางการคลัง และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การส่งเสริมการลงทุนในเชิงรุก ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยมุ่งเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์เพื่อยกระดับทักษะและความรู้ของแรงงาน รองรับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ และการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำโดยการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทั่วถึง และสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม ก็เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ

ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภาคเอกชนต้องปรับตัว และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ประชาชนต้องตระหนักถึงความสำคัญของการออม และการวางแผนทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระดับบุคคล

ท่ามกลางความท้าทายและความไม่แน่นอน ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง ด้วยความร่วมมือ ความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ประเทศไทยจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรค และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้กับคนไทยทุกคน

แชร์

GDP ไทย Q3 ปี 2567 โต 3.0% เกินคาดการณ์ แต่ทำไมถึงรั้งท้ายในอาเซียน