บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยผลประกอบการสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 โดยมีรายได้รวม 10,368.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,430.44 ล้านบาท แม้รายได้จากธุรกิจ Commercial EV จะปรับตัวลดลง แต่บริษัทยังคงมีรายได้ประจำจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ได้ตามแผนที่วางไว้อย่างราบรื่น ในขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นกู้รุ่น EA248A วงเงิน 1,500 ล้านบาท ได้อนุมัติการขยายเวลาไถ่ถอน และหุ้นกู้รุ่น EA249A มีการเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 23 สิงหาคม นอกจากนี้ EA ยังคงมุ่งมั่นในการแสวงหา Strategic Partner เพื่อร่วมลงทุนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ พร้อมทั้งรุกตลาด EV Truck เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร ตอบรับกระแสความต้องการยานยนต์พลังงานสะอาดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของ EA กล่าวว่า “แม้ว่ารายได้และกำไรในช่วงครึ่งปีแรกจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากการส่งมอบ EV Bus ให้กับลูกค้ารายใหญ่ลดลง แต่ EA ยังคงมีรายได้ประจำจากการขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับการดำเนินการตามภาระผูกพันทางการเงิน ทั้งการชำระคืนดอกเบี้ยหุ้นกู้และการชำระหนี้คืนให้กับสถาบันการเงิน”
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 1,430.44 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ ธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากการสิ้นสุดระยะเวลาการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล (adder)
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2567 บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA จะให้ความสำคัญกับการจำหน่ายรถหัวลากไฟฟ้า (EV Truck) เป็นกลยุทธ์หลัก โดยมีกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่หลายรายที่ได้รับมอบรถไปแล้ว เช่น JWD, PTTGC, WHA และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ในระหว่างการเจรจาและเตรียมการส่งมอบ ซึ่ง EV Truck ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการจากปัญหาราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ยังสอดรับกับกระแส Green Energy ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลกอีกด้วย
ในส่วนของธุรกิจแบตเตอรี่ บริษัทฯ กำลังดำเนินการปรับปรุงการออกแบบเพื่อนำแบตเตอรี่ไฟฟ้าไปใช้ในการผลิตรถหัวลากไฟฟ้า รวมถึงการจำหน่ายแบตเตอรี่ในรูปแบบของ Energy Storage (ESS) ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซล บริษัทฯ มีรายได้ 2,042.40 ล้านบาท จากการผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100), กลีเซอรีนบริสุทธิ์, น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และ PCM นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า โครงการรับเหมาก่อสร้างติดตั้ง Solar Rooftop และโครงการกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่เกาะล้านและเทศบาลนครภูเก็ต
สำหรับงบดุล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 110,006.34 ล้านบาท หนี้สินรวม 69,709.87 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 40,296.48 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากสิ้นปี 2566 จำนวน 3,713.14 ล้านบาท โดยหลักมาจากการจ่ายเงินปันผล 1,113.85 ล้านบาท และองค์ประกอบอื่นของส่วนของเจ้าของ 3,426.25 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,430.44 ล้านบาท
EA ได้ดำเนินการจัดทำสัญญาเงินกู้ร่วม (Syndicated Loan) กับสถาบันการเงินหลายแห่ง วงเงินรวมประมาณ 8,500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินทุนดังกล่าวไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน โดยมีกำหนดชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 3 ปี และกลุ่มกิจการจะทยอยชำระคืนเงินกู้ผ่านกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาครัฐ (PPA) นอกจากนี้ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น EA248A ได้มีมติอนุมัติการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้จำนวน 1,500 ล้านบาท ออกไปเป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 พร้อมทั้งปรับอัตราดอกเบี้ยจาก 3.11% ต่อปี เป็น 5.00% ต่อปี และมีการเพิ่มเติมหลักประกัน โดยการดำเนินการดังกล่าวไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดชำระ
ในส่วนของที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น EA249A ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 บริษัทได้เสนอขออนุมัติการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้จำนวน 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าร่วมประชุมไม่เป็นไปตามเกณฑ์องค์ประชุม จึงมีการกำหนดให้จัดประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 สิงหาคม โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามเกณฑ์องค์ประชุมและได้รับการอนุมัติในครั้งนี้
เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการเงินของบริษัท EA อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อแสวงหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) รายใหม่ที่มีศักยภาพในการเข้ามาเพิ่มทุน และสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Synergy) ร่วมกัน รวมถึงการพิจารณาทางเลือกในการจำหน่ายสินทรัพย์ของบริษัทฯ ซึ่งอาจรวมถึงการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่นักลงทุนที่แสดงความสนใจ นอกจากนี้ในไตรมาสที่สอง บริษัทได้บรรลุความก้าวหน้าครั้งสำคัญผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่
โดยทั้งสองโครงการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ EA ในการเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างผลกำไรให้กับบริษัท แต่ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของทั้ง สปป.ลาว และประเทศไทย สุดท้ายนี้ EA พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงในเส้นทางสู่ผู้นำด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่ยั่งยืน แม้เผชิญความท้าทายในช่วงครึ่งปีแรก แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน และมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจนและความร่วมมือที่แข็งแกร่ง EA พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและสังคมต่อไป