Update : วายแอลจี เผยทองคำดีดกลับหลังนักลงทุนคลายกังวลผลการประชุมเฟด ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไม่ได้ใช้ยาแรงเกินคาดหมาย และลดงบดุลแบบค่อยเป็นค่อยไปน้อยกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง แต่ยังต้องจับตาการประชุมอีก 2 ครั้งถัดไป
.
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้น หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงวันที่ 3-4 พ.ค. ที่ผ่านมาเสร็จสิ้น ซึ่งนักลงทุนในตลาดมองว่าเฟดไม่ได้ใช้ยาแรงเกินไปกว่าความคาดหมาย ทั้งนี้ เฟด มีมติ "ขึ้น" อัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 bps สู่ระดับ 0.75-1.00% พร้อมประกาศแผนการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening หรือ QT) ซึ่งจะ "เริ่มต้น" ดำเนินการปรับลดงบดุลในวันที่ 1 มิ.ย. ในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน (แบ่งเป็นลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และลดการถือครองหลักทรัพย์ MBS 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน) และการลดงบดุลจะเพิ่มขึ้นจนแตะระดับสูงสุดที่ 9.5หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนภายใน 3 เดือน
.
นอกจากนี้ ปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำมาจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ที่ได้ปฏิเสธแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 0.75% แม้มีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นรุนแรงก็ตาม นั่นทำให้นักลงทุนปิดโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปีของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 2.9149% ส่วนดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 102.457 จนเป็นที่มาที่ทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นจนกระทั่งทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,903.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของวันนี้ในตลาดเอเชีย
“อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้มองว่า จะเป็นการปรับขึ้นในกรอบจำกัด ซึ่งยังต้องระวังแรงขายสลับออกมาเป็นระยะ เนื่องจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นไปในลักษณะแข็งค่า รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยที่ยังคงเป็นขาขึ้นจากการกลับมาคุมเข้มนโยบายของเฟด”
นอกจากนี้นักลงทุนได้ลดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซียกับยูเครน โดยเฉพาะกรณีที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ออกมาระบุว่าสถานการณ์ความขัดแย้งนี้จะมีโอกาสน้อยมากที่จะพัฒนาไปสู่ส่งครามโลกครั้งที่ 3 ทำให้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวกลับขึ้นมา ทำให้นักลงทุนประเมินว่าตลาดหุ้นสหรัฐอาจมีสัญญาณดีดตัวขึ้นมา ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นของวอร์เรน บัฟเฟตต์ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นอย่างมาก จนบั่นทอนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับคำแนะนำนักลงทุนในช่วงนี้ แนะนำให้หาจังหวะทยอยขายทำกำไรทองคำออกบางส่วน เมื่อราคามีการปรับตัวขึ้น เพราะแม้ประเด็นเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง แต่ยังต้องจับตาการประชุมของเฟดในรอบถัดไป เพื่อรอราคาย่อตัวลงมาอีกครั้งจึงค่อยเข้าซื้อตามบริเวณแนวรับ
ทั้งนี้ประเมินกรอบแนวต้านบริเวณ 1,920-1,934 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และประเมินกรอบแนวรับบริเวณ 1,889-1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับต่อไปบริเวณ 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวทองคำในประเทศคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30,000 - 31,200 บาทต่อบาททองคำ
ทั้งนี้ YLG แนะนำนักลงทุนยังสามารถลงทุนผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศนั้น วายแอลจีได้ร่วมมือ กับ ซีเอ็มอี กรุ๊ป อิงค์ (CME Group Inc) ผู้ให้บริการตลาด Futures อันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ที่มีสินค้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกครอบคลุม ทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐ cryptocurrency สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย จึงทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสการลงทุนแม้แต่วันเดียว